ในยุคที่เทคโนโลยีแบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการทำงานเป็นอย่างมาก หนึ่งในประเด็นสำคัญที่บริษัทในแต่ละธุรกิจต้องตอบให้ได้ คือจะปรับตัวและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ กับธุรกิจอย่างไรเพื่อให้เกิดคุณค่าและประสิทธิภาพสูงสุดแก่ลูกค้า พนักงาน และบริษัทได้
บริษัท SCG Logistics ที่ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ได้เล็งเห็นความสำคัญและการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอย่างมาก ณ วันนี้ SCG Logistics ภายในการนำของ พี่ไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้ปรับตัวนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานของบริษัทและพนักงานมีคุณค่า และสะดวกสบายต่อลูกค้าทุกคนมากขึ้น
เทคโนโลยีตอบโจทย์ธุรกิจในโลกสมัยใหม่
ปัจจุบันการเกิดขึ้นใหม่ของธุรกิจต่างๆ รวดเร็วขึ้น ธุรกิจที่ไม่มีการปรับตัวและดำเนินไปตามรูปแบบเดิมโดยไม่พัฒนานั้น ย่อมมีสิทธิถูก Disrupt ได้มาก การนำดิจิทัลเข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าย่อมเป็นทางเลือกที่ฉลาดและตอบโจทย์การทำธุรกิจในโลกสมัยใหม่แน่นอน
แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างมาก และมีโอกาสในการนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ทั้งยังสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 อย่าง ทั้งการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า และตอบสนองถึงคุณภาพและผลประกอบการของแต่ละองค์กรอีกด้วย จุดสำคัญที่เราต้องรู้คือเทคโนโลยีแต่ละอย่างไม่ได้เหมาะกับทุกขั้นตอน ดังนั้นเราต้องเลือกให้เหมาะสม
การเดินทางเพื่อปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล
เดิมทีการทำงานของบริษัท SCG Logistics จำเป็นต้องใช้จำนวนพนักงานเยอะเพื่อติดต่อกับลูกค้า ช่วยค้นหาข้อมูลของสินค้า และ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับลูกค้า การทำงานในแต่ละครั้งจึงใช้เวลานาน และเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลที่จะผิดพลาดสูง การที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นระบบส่วนกลางก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก การที่เราเอาเทคโนโลยีแต่ละอย่างมาค่อยๆปรับใช้ในการทำงานจะสามารถช่วยลดปัญหาเหล่านั้นได้
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ SCG Logistics นำมาใช้อย่างเทคโนโลยี Chatbot จากปกติจากลูกค้าต้องคอยโทรศัพท์หา Call Center เพื่อติดตามสถานะสินค้าของตัวเองว่าอยู่ตรงไหน มีการจัดส่งวันที่เท่าไหร่ เราได้ปรับให้ลูกค้าทุกคนสามารถคุยกับ “ทัคคุง” Chatbot ของเรา ผ่านช่องทางการสื่อสารที่ลูกค้าทุกคนรู้จักและคุ้นเคย นั่นก็คือ LINE Application ช่วยประหยัดเวลาที่ลูกค้าต้องรอข้อมูลจากพนักงาน มาสู่การถามคำถาม และ ทราบคำตอบได้ทันทีจากการทำงานของ AI ที่สำคัญทัคคุงยังฉลาดขึ้นเรื่อยๆ เพราะตัวระบบมีการเรียนรู้แนวโน้มความต้องการของลูกค้า (Machine Learning) และ นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าอาจจะชอบในอนาคตได้ กล่าวได้ว่าไม่เพียงจะตอบสนองได้รวดเร็วขึ้นแล้ว ยังคงความรู้สึก friendly ในการสื่อสารเอาไว้ได้อีกด้วย และนอกจากนั้นบริษัทยังใช้เทคโนโลยีแบบ RPA ที่โรบอทสามารถทำงานแทนพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง ผลของการทำงานโรบอทหนึ่งตัวเทียบเท่ากับพนักงานถึง 3 คน สามารถแบ่งเบาและลดต้นทุนเวลาของพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น
ไม่ใช่แค่ช่วยในงานที่ติดต่อกับลูกค้าให้รวดเร็วขึ้นเพียงอย่างเดียว ในเรื่องของการควบคุมความปลอดภัยในการทำงานเอง บริษัท SCG Logistics ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีแบบ Machine Learning หรือปัญญาประดิษฐ์ (Ai) และ data เข้ามาช่วยในการดูแลการทำงานของพนักงานขับรถทุกคน
ทางบริษัทจะมีห้อง Logistics Command Center (LCC) ที่คอยติดตามดูแลจาก GPS ของตัวรถยนต์ ว่ารถขนส่งแต่ละคันของเรากว่า 7,000 กว่าคัน และรถขนส่งของลูกค้าอีกกว่า 3,000 คันกำลังเคลื่อนที่จากจุดไหนไปจุดไหน และแต่ละคันขับตามความเร็ว 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามที่บริษัทกำหนดหรือไม่ หากเกิดเหตุการณ์ความเร็วเกินกำหนด ระบบก็จะแจ้งเตือนให้พนักงานทราบ ผ่านอุปกรณ์ไมค์ลำโพงของตัวรถยนต์เพื่อสื่อสารกับคนขับให้ลดความเร็วในทันที ขณะเดียวกันหากมีการจอดรถฉุกเฉินอย่างไร้สาเหตุ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุใดใด ระบบก็จะแจ้งพนักงานให้ประสานงาน ติดต่อให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป
ไม่ใช่แค่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยังช่วยเพิ่มช่องทางในอนาคต
พี่ไพฑูรย์ เล่าว่า อย่ามองดิจิทัลเป็นเพียงทางลัดที่จะช่วยให้บริษัททำอะไรหลายอย่างได้สะดวกขึ้น แต่ให้มองเป็นเหมือน “หน้าต่าง” ที่คอยมอบโอกาสและช่องทางอื่นๆ แก่บริษัทในอนาคต การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยในบริษัท SCG Logistics นั้น เราไม่เพียงแต่สร้างระบบที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น เรายังมีการใช้ Big Data หรือการจัดเก็บข้อมูลการทำงานมากขึ้นด้วย เป็นโอกาสที่เราจะนำข้อมูลตรงนี้ไปใช้ในการทำงานหรือติดต่อคู่ค้าทางธุรกิจอื่นๆได้ดีขึ้น
อย่างการทำงานของห้อง LCC ที่ได้กล่าวไปข้างต้น นอกจากการติดตามสถานะความเคลื่อนไหวแล้ว บริษัทยังรวบรวมสถิติเส้นทางและข้อมูลความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเอาไว้ด้วย เมื่อเรามีข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ย่อมจะทำให้การคาดการณ์และตัวเลขสถิติเกี่ยวกับประเด็นนี้แม่นยำขึ้น ส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นและปรับตัววางแผนได้ในอนาคต
จุดสำคัญ คือดิจิทัลเข้ามาเพื่อช่วยเหลือพนักงาน
สิ่งแรกที่หลายบริษัทมักมีปัญหาในการเปลี่ยนระบบการทำงานเดิมให้เข้าสู่ความเป็นดิจิทัล หรือการตัดสินใจนำเทคโนโลยีและหุ่นยนต์มาใช้งานมากขึ้นนั้น คือการที่เหล่าพนักงานมักกังวลว่าจะเสียมูลค่าการทำงานหรือเผชิญกับภาวะตกงานหรือไม่
ในมุมมองของ SCG Logistics นั้น สิ่งแรกที่บริษัททำเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลง คือสร้างความเข้าใจร่วมที่ถูกต้อง สื่อสารให้พนักงานทุกคนรู้ถึงประโยชน์และจุดประสงค์ที่แท้จริงของการใช้เทคโนโลยีแบบดิจิทัล ว่าการเข้ามาของเทคโนโลยมีประโยชน์มากกว่ามีโทษ และช่วยเหลือพวกเขาในการทำงานจริงอย่างไรได้บ้าง
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยในการทำงานแต่ละขั้นตอนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ชีวิตของพนักงานทุกคนดีขึ้น พนักงานทุกคนในบริษัทหลายตำแหน่ง จากเดิมที่ต้องทำงานจำนวนมากและอาจต้องเผชิญกับการทำงานซ้ำๆ อย่างการคีย์ข้อมูลเป็นระยะเวลานาน ขาดสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ก็สามารถกลับมามี Work-Life Balance ที่ดีขึ้นได้จากการที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ที่สำคัญถึงพนักงานบางส่วนจะไม่ได้ทำงานในลักษณะเดิมแล้ว บริษัท SCG Logistics ก็ยังเตรียมความพร้อมให้พวกเขา ด้วยการมอบโปรแกรมเทรนนิ่งที่จะช่วยฝึกและเสริมทักษะอื่นๆให้พนักงานแต่ละคนได้ค้นพบทักษะและศักยภาพอื่นๆที่ซ่อนอยู่ในตัว นำไปสู่การจัดสรรงานในแต่ละแผนกที่เหมาะสมกับพนักงานเหล่านั้นต่อไปด้วย ดังนั้นขอเพียงพนักงานทุกคนพร้อมที่จะก้าวออกจาก comfort zone และกล้าที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ พวกเขาย่อมได้พบกับความภาคภูมิใจและมิติใหม่แห่งการทำงานของตัวเองแน่นอน
เป้าหมายปลายทางการเข้าสู่ Digital Driven Logistics
ณ วันนี้บริษัท SCG Logistics กำลังเรียนรู้และเดินหน้าพัฒนาต่อไป มุ่งสู่การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้กับการทำงานต่างๆอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อมอบการทำงานที่มีคุณภาพและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าและพนักงานทุกคน แม้การเดินทางครั้งนี้จะเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่ด้วยความทุ่มเทและความร่วมมือร่วมมือใจของพนักงาน SCG Logistics ทุกคน เชื่อว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างเต็มตัว ทั้งหมดก็เพื่อนำไปสู่ความมืออาชีพในการบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมและตรงจุด
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.scglogistics.co.th