รัฐบาลพร้อมเปิด EECd เต็มรูปแบบปี 68 ดึงผู้ประกอบการเป้าหมายลงทุนไทย

IMG_59273_20220915080732000000


รัฐบาลเชื่อมั่นโครงการ “เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)” ช่วยดึงดูดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เตรียมเปิดโครงการฯ นำร่อง 67

รัฐบาลเชื่อมั่นโครงการ “เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)” ช่วยดึงดูดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เตรียมเปิดโครงการฯ นำร่อง 67 คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายใน 68

วันที่ 15 กันยายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งส่งเสริมดิจิทัลเทคโนโลยี ซึ่งมีทั้ง IoT, 5G, Cloud, AI/Big Data, Blockchain, AR/VR/MR เป็นต้น โดยให้สำนักงาน EEC พัฒนาโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 534 ไร่ ใกล้กับท่าเรือน้ําลึก แหลมฉบัง จ.ชลบุรี  ตั้งเป้าผลักดันให้เป็นเครื่องมือสำคัญของภาครัฐที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่เศรษฐกิจโลกยุคใหม่  มั่นใจสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศได้มาก เตรียมแผนเปิดโครงการฯ ในพื้นที่นำร่อง 65 ไร่ ปี 2567  และคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2568

นางสาวรัชดาฯ กล่าวถึงการดำเนินการโครงการ EECd ว่า สำนักงาน EEC ได้ทำการออกแบบระบบนิเวศน์ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยระบบนิเวศน์จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ระบบนิเวศน์ทางธุรกิจ ระบบนิเวศน์ทางการศึกษา และระบบนิเวศน์การทำงาน  ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการด้านดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในปัจจุบันมีองค์กรพันธมิตรมากมาย ที่ร่วมพัฒนาโครงการ อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ทางสำนักงาน EEC ได้ทำการประชาสัมพันธ์โครงการ EECd ร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติ ซึ่งได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการด้านดิจิทัลในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย เป็นต้น

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพทั้งการประกอบธุรกิจและการอยู่อาศัย เมื่อสำนักงาน EEC ได้พัฒนาเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ที่มีระบบนิเวศน์รองรับอุตสาหกรรมดิจิทัลโดยตรง รวมถึงสิทธิประโยชน์แบบเฉพาะเจาะจง ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของอุตสาหกรรมดิจิทัล ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดดึงดูดหลักของผู้ประกอบการด้านดิจิทัลและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตจากนานาชาติ ที่ต้องการเข้าถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายถึงโอกาสที่จะมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศอีกมาก นำไปสู่การจ้างงานและสร้างรายได้ และองค์ความรู้ที่สามารถถ่ายโอนมายังคนไทยมากขึ้นด้วย” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter